วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2559

36.ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด


ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
1x42.gif
  ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (NAM) เป็นองค์การระหว่างประเทศที่มีนโยบายว่าจะไม่เป็นพันธมิตรหรือต่อต้านกับขั้วอำนาจฝ่ายใด
เป็นผลสืบเนื่องจากแนวคิดของนายเยาวหราล เนห์รู นายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดีย, ญามาล อับดุลนาเซร์ อดีตประธานาธิบดีของอียิปต์ และยอซีป บรอซ ตีโต ประธานาธิบดีของยูโกสลาเวีย  ดร.ซูการ์โน ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ประธานาธิบดีควาเมห์ เอนครูมา แห่งกานา
ขบวนการนี้ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน ค.ศ. 1995 มีจำนวนสมาชิกทั้งสิ้นนับถึงปี ค.ศ. 2007 จำนวน 118 ประเทศ ซึ่งเป็นตัวแทนของจำนวนสมาชิกในสหประชาชาติถึง 2 ใน 3 และมีจำนวนประชากรรวม 55% ของประชากรทั้งโลก ส่วนใหญ่แล้วเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่า กลุ่มโลกที่สาม
    กลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ก่อตั้งเมื่อปี 1961 มีจุดเริ่มต้นมาจากการรวมตัวกันของผู้นำ 5 ประเทศ ได้แก่ พม่า ปากีสถาน ศรีลังกา อินเดีย และอินโดนีเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างประเทศในยุคสงครามเย็น หลังจากนั้น การประชุมได้ขยายวงกว้างออกไปสู่กลุ่มประเทศในทวีปเอเชียและแอฟริกาที่ได้รับผลกระทบจากการตกเป็นอาณานิคม
     ปัจจุบัน "นาม" (NAM) มีสมาชิก 120 ประเทศ คือ เอเชียและแปซิฟิก 39 ประเทศ แอฟริกา 53 ประเทศ ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 26 ประเทศ และยุโรปตะวันออก 2 ประเทศ และมีผู้สังเกตการณ์อีก 17 ประเทศและองค์การ
โดยในปี พ.ศ. 2555 อิหร่านในฐานะประเทศเจ้าภาพจะทำหน้าที่ประธานกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด(ครั้งที่ 16) จนถึงปี ค.ศ. 2015   
      ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เกิดจากประชุมที่บันดุง ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี ค.ศ. 1955 ต่อมาได้มีการประชุมอย่างเป็นทางการที่ กรุงเบลเกรด ประเทศยูโกสลาเวีย  เมื่อปี ค.ศ. 1961 มีประเทศเข้าร่วมประชุม 29 ประเทศ รวมประเทศไทยด้วย
     ในการประชุมครั้งที่ 2 จำนวนสมาชิก เพิ่มเป็น 47 ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่กำลังพัฒนา หรือประเทศยากจน หรือประเทศในโลกที่สาม มีการประชุมที่เมือง ไคโร ประเทศอิยิปต์
     ครั้งที่ 10 จัดขึ้นที่ กรุงจาการ์ตา มีสมาชิกเพิ่มเป็น 108 ชาติ รวมเป็นกลุ่มที่มิได้ก่อตั้งเป็นรูปธรรมเหมือนองค์กรอื่นๆ แต่จะมีความผูกพันในด้านคุณธรรมของสมาชิกที่มีความยึดมั่นต่อกัน
     อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (นาม) ครั้งที่ 16   ที่กรุงเตหะราน ในวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555
มีผู้นำและตัวแทนจาก 50 ประเทศเข้าร่วม อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมว่า การประชุมครั้งนี้ เพื่อสร้างความมีชีวิตชีวาและแนวคิดใหม่ๆ
พร้อมกับเน้นย้ำว่า อิหร่านจะไม่ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ เนื่องจากเป็นบาปอันใหญ่หลวงและไม่สามารถให้อภัยได้ แต่จะไม่ละทิ้งสิทธิในการผลิตพลังงานนิวเคลียร์
เพราะอาวุธนิวเคลียร์ไม่ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงและอำนาจทางการเมือง แต่เป็นภัยต่อทั้ง 2 สิ่ง และได้กล่าวถึงโครงสร้างคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ว่าไม่เป็นธรรม ไม่สมเหตุสมผล และเอื้อให้สหรัฐแสดงพฤติกรรมอันธพาลบนเวทีโลก

1x42.gif
ประวัติศาสตร์
ชาญวิทย์  ปรีชาพาณิชพัฒนา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น